เปลือยหน้าสดแบบไหนให้สวยเป๊ะ ไม่โทรมและไม่ต้องอายใคร

เปลือยหน้าสดแบบไหนให้สวยเป๊ะ ไม่โทรมและไม่ต้องอายใคร

มันต้องมีสักวันแหละที่สาว ๆ ขี้เกียจแต่งหน้า หรืออยากปล่อยหน้าให้เปลือยสด ไร้แป้ง ไร้บลัชออนปกปิดกันบ้าง แต่การเผยผิวได้อย่างมั่นใจนั้นต้องเป็นผิวใสสวยอย่างธรรมชาติ ไม่ หมองคล้ำ ไร้ริ้วรอย ที่สำคัญ มองมุมไหนก็ต้องดูไม่โทรม ลองนำเคล็ดลับการเปลือยหน้าสดแบบไม่อายใครไปใช้กันดู ไม่แน่นะ สาว ๆ อาจจะถูกใจกับใบหน้าโดยไม่ต้องง้อเครื่องสำอางก็ได้  เคล็ดลับที่ 1 สะอาด – สครับ – มาส์ก อย่าได้ขาด ก่อนที่สาว ๆ จะเผยผิวออกมาต้องเริ่มจากการล้างหน้าให้สะอาดหมดจด เพราะถือเป็นพื้นฐานของการมีใบหน้าที่กระจ่างใสไร้ที่ติ นอกจากจะเช็ดล้างเครื่องสำอางอย่างดีแล้ว สาว ๆ จะต้องสครับผิวและมาส์กหน้าอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะการสครับจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก มีวิธีการง่าย ๆ ที่สามารถจัดหาวัตถุดิบราคาไม่แพงและทำเองได้ เช่น สูตรเกลือผสมน้ำมะกอกอย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วนำมาขัดเบา ๆ บนใบหน้าโดยวนเป็นวงกลมสัก 2-5 นาทีโดยประมาณแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรืออีกสูตรหน้าใสโดยการนำน้ำตาลทราย 2 ช้อนชาผสมกับน้ำมันเมล็ดองุ่น 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วนำมาสครับบนใบหน้าสัก 1-3 […]

ระดับความหอมของน้ำหอม

ระดับความหอมของน้ำหอม

น้ำหอมแต่ละชนิดจะมีระดับความหอมไม่เหมือนกัน บางชนิดอาจจะหอมมาก จนถึงฉุน แต่บางชนิดหอมอ่อน ๆ ชวนหลงใหล เรามาทำความรู้จักกลิ่นน้ำหอมกัน 1.Top Note เป็นกลิ่นที่หอมระเหยออกมาเมื่อฉีดในช่วงแรก ๆ ส่วนใหญ่เป็นแนวกลิ่นสดชื่นแบบกลิ่นส้ม มะนาว หรือกลิ่นดอกไม้ ซึ่งกลิ่นจะอยู่นาน 5 – 10 นาที 2.Middle Note  กลิ่นน้ำหอมที่กระจายกลิ่นเต็มที่ เป็นกลิ่นน้ำหอมที่บ่งบอกบุคลิกภาพของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี มีส่วนผสมที่คัดสรรเป็นพิเศษเพื่อให้โดดเด่นเฉพาะตัว จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่กลิ่นจะติดทนนาน 2 – 4 ชั่วโมง โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นประเภทไม้หอม วานิลลา และกลิ่นดอกไม้หายากนานาพัน เป็นต้น 3.Base Note  เป็นกลิ่นที่ติดผิวได้นานที่สุด ผสมผสานเข้ากับกลิ่นกายเป็นบุคลิกเฉพาะบุคคล จะมีกลิ่นที่ติดทนนานกว่าน้ำหอมประเภทอื่น ๆ 4 – 6 ชั่วโมง และจะค่อย ๆ จางหายไป กลิ่นส่วนใหญ่จะเป็นแนวมัสก์หรืออำพัน เป็นต้น กลิ่นน้ำหอมต่าง ๆ ที่ควรรู้ น้ำหอมจะมีลักษณะเฉพาะตัว เราสามารพเลือกกลิ่นน้ำหอมที่ชอบและรู้ว่าน้ำหอมแต่ละกลิ่นมีกลิ่นเหมือนอะไร เรามาทำความรู้จักกับกลิ่นน้ำหอมต่าง […]

สกินแคร์ ทาแค่ไหนถึงจะพอ ?

สกินแคร์ ทาแค่ไหนถึงจะพอ ?

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มักจะละเลยกับการทาสกินแคร์เพื่อบำรุงผิว แต่ไปจัดหนักจัดเต็มกับการลงเมคอัพแทน ผิดค่ะ! เพราะการจะมีเมคอัพที่สวย ดูเรียบเนียนไปกับผิว ต้องเริ่มจากการบำรุงอย่างดีก่อน เคยได้ยินประโยคว่า ‘สวยจากภายในสู่ภายนอก’ กันไหมคะ ? กับผิวเราเองก็เช่นกัน ยิ่งเราบำรุงอย่างล้ำลึก ก็จะยิ่งทำให้ผิวสุขภาพ อยากจะทำอะไรต่อจากนั้น ก็ดูดีไปหมด สกินแคร์ ควรทาอะไรก่อน ? ก่อนอื่นเราขอทำความเข้าใจตั้งแต่สเต็ปการลงก่อน โดยปกติแล้วสาว ๆ มักจะคิดว่าต้องเรียงลำดับตามประเภทสกินแคร์ เซรั่มแล้วไปครีม ครีมแล้วอายครีม ปิดด้วยสลีปปิ้งมาส์ก ถูกต้องบางส่วนค่ะ เพราะการลงสกินแคร์ให้ได้ประสิทธิภาพ คือ การลงตามความหนาแน่น หรือความเหลวข้น หากสกินแชร์ชิ้นไหนมีความบาง เนื้อเหลว สามารถทาก่อนได้เลย และตามด้วยผลิตภัณฑ์ที่เนื้อหนักและเหนียวตามมาจะดีที่สุด เพื่อการดูดซึมลงสู่ผิวอยากมีประสิทธิภาพ สกินแคร์ ควรทาแค่ไหนถึงจะพอ ? แน่นอนว่าต้องมีคำถามว่าแค่ไหนถึงจะพอ เราขอแยกตามประเภทและเรียงลำดับขั้นตอนให้ดังนี้ คลีนเซอร์ หรือ โฟมล้างหน้า : เนื่องจากขั้นตอนนี้จะมาหลังจากเราเช็ดเครื่องสำอางด้วยคลีนซิ่งออกแล้ว ผิวหน้าจะขาดความชุ่มชื้นไปพอสมควร ดังนั้น ควรจะเลือกคลีนเซอร์ที่ไม่ทำให้หน้าแห้งเอี้ยดจนเกินไป และใช้ในปริมาณเท่ากับเหรียญห้าบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และใบหน้าของแต่ละคนด้วยนะ เอสเซนต์ หรือ น้ำตบ : ทริคผิวฉ่ำแบบเกาหลีคือต้องลงน้ำตบ […]

เลือกครีมทาหน้าอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว

เลือกครีมทาหน้าอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว

ครีมบำรุงผิวหน้า จะช่วยปรับสีผิวให้ดูสมดุล หน้าขาวเนียนมีออร่าเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยปกป้องผิว ให้ผิวเกิดความสมดุล ช่วยปกป้องผิวจากสิ่งสกปรกและแสงแดดจากภายนอกที่เข้ามากระทบผิวได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงยังช่วยฟื้นฟูผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอยแห้ง แก่กว่าวัยอันสมควร 1.ผิวทั่วไป เป็นผิวที่ไม่มันจนเกินไปหรือไม่แห้งจนเกินไป ควรเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของน้ำเป็นหลัง อาจจะเป็นเอสเซ้นส์ เจล หรืออีมัลชั่น เพราะเป็นเนื้อที่บางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ 2.ผิวมัน สำหรับคนที่มีผิวมันการเลือก ครีมบำรุงผิวหน้า ให้เหมาะกับสภาพผิวเป็นสิ่งสำคัญหากใช้ไม่ถูกประเภทหรือใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่ไม่เหมาะกับผิวอาจจะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ควรเลือกใช้ครีมที่เป็นเนื้อโลชั่นหรือเซรั่ม ที่ระบุไว้ว่าไม่อุดตัดต่อรูขุมขน เพื่อจะได้ลดปัญหาในการเกิดสิว 3.ผิวแห้ง เหมาะกับครีมบำรุงที่มีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำมัน และควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าเป็นหลัก หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของปิโตรเรียมจะช่วยกักเก็บน้ำใต้ผิวได้เป็นอย่างดี 4.ผิวแพ้ง่าย เป็นผิวที่ไวต่อสิ่งรบกวนจากภายนอก เป็นผิวที่ดูแลเป็นพิเศษ และดูแลอยากมากพอสมควร เมื่อเจอสารเคมีและสภาพอากาศที่เป็นพิษต่อผิวก็จะมีอาการระคายเคือง มีผื่นแดง รู้สึกคันหรือแสบผิวง่าย การเลือกผลิตภัณฑ์ควรเลือกจากส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติเป็นหลัก และต้องมีความอ่อนโยนต่อผิว เช่นว่านหางจระเข้ คามายล์ และควรหลีกเลี่ยงครีมที่มีการแต่งกลิ่นหรือมีกรดเป็นส่วนประกอบเป็นอันขาด 5.ผิวผู้สูงวัย การที่อายุเรามากขึ้นทำให้ ครีมบำรุงผิวหน้า ได้ประสิทธิ์ภาพน้อยลง ต่อมไขมันใต้ผิวหนังลดลงจนแห้งกร้านมีริ้วรอยมากขึ้น จึงควรเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับวัย และควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมของน้ำเป็นหลัก เพื่อคงความเนียนนุ่มและชุ่มชื้นแก่ผิวมากขึ้น  ยิ่งเป็นครีมที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระหรือ AHA เป็นส่วนประกอบยิ่งควรหยิมมาใช้เป็นพิเศษ การเลือกครีมทาผิวให้เหมาะกับสภาพผิวเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผิวเราได้รับ การบำรุง อย่างเต็มประสิทธิภาพ […]

ส่องสัญญาณเตือน เส้นผมมีปัญหา 2

ส่องสัญญาณเตือน เส้นผมมีปัญหา 2

4. สภาพมีผมมัน เหมือนกับใส่เจล  ตัวคุณเองก็รู้สึกไม่สบายใจ เมื่อเห็นเพื่อนหรือว่าคนรอบข้างมีผมมันเยิ้มดูแล้วไม่สบายใจ เพราะอาการของคนบางผมมันเยิ้มดูไม่สะอาดสายตามากเลย การที่เพื่อนหรือว่าคนรอบข้างของคุณต้องมีเส้นผมที่มันเยิ้ม สาเหตุหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า สภาพร่างกายของเพื่อนหรือว่าคนรอบข้างของคุณได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ หรือทานอาหารประเภทไขมันสัตว์มากเกินไป การทานอาหารประเภทไขมันที่มากเกินไป นอกจากส่งผลต่อความมันบนเส้นผมของคุณแล้ว ผลที่ตามมาเมื่อทานไปมาก ๆ จะเกิดการสะสมภายในร่างกาย จะส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณด้วยเหมือนกัน ผลที่ตามมาคือโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด เมื่อรู้ต้นสายปลายเหตุขนาดนี้กับตัวคุณเอง ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของคุณ ก่อนที่จะสายเกินแก้ถ้าแย่เดี๋ยวจะแก้ไม่ทัน  5. ผมสีดอกเลาเปลี่ยนเป็นขาวโพลนเร็วกว่าที่คิด  ตัวคุณเองอาจจะตกใจได้เหมือนกัน หากว่าวันหนึ่ง ผมบนศีรษะของคุณเปลี่ยนจากสีดำกลายเป็นสีขาวโพลน อย่างไม่รู้สาเหตุ ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ สามารถเกิดขึ้นกับคนใดคนหนึ่งได้ เหตุผลหนึ่งนั่นก็คือการเกิดผมหงอก หรือว่าเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีขาว มาจาการการถ่ายทอดทางพันธุกรรมสามารถเกิดขึ้นได้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ จากการศึกษาพบว่าผู้หญิงเส้นผมจะเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเทาก่อนที่หงอกเป็นสีขาว ด้วยวัยเพียง 30-40 ปี เท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ หันกลับไปดูคุณพ่อคุณแม่ของคุณสอบถามท่านว่าผมของท่านเปลี่ยนสีตั้งแต่เมื่อไหร่ หากได้รับคำตอบว่า เปลี่ยนตั้งแต่อายุยังน้อย นั่นเองพอสบายใจได้ว่า ผมสีดอกเลาของคุณมาจากพันธุกรรม  6. ผมหงอกก่อนเวลาได้  เงื่อนไขข้อนี้ คุณไม่ต้องตกใจอะไรนั่งทำงานที่ออฟฟิศอยู่ดี ๆ ไงผมสีดอกเลาขึ้นมาเฉยเลย เรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะเวลาส่วนใหญ่ของวัยทำงาน คุณใช้ไปอยู่กับการหมกหมุ่นกับงานเครียด ๆ ที่วิ่งเข้ามาบนโต๊ะคุณอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความเครียดที่อาจเกิดขึ้นนี้มีส่วนไม่น้อยที่ทำให้สีผมของคุณต้องเปลี่ยนสีไป ก่อนเวลาอันควรที่จะเป็น […]

ส่องสัญญาณเตือน เส้นผมมีปัญหา 1

ส่องสัญญาณเตือน เส้นผมมีปัญหา 1

สำหรับชีวิตคนเรา เป็นตัวเป็นตนขึ้นมาได้ล้วนประกอบด้วยสิ่งต่าง ๆ มากมาย สำคัญบ้าง ไม่สำคัญบ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนประกอบหนึ่งของชีวิตที่มีความสำคัญต่อชีวิตชีวิตหนึ่งมาก สิ่งนั้นก็คือเส้นผม เมื่อพูดถึง เส้นผม นั่นก็คือ เซลล์ส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่เป็นในส่วนของเซลล์ที่ตายไปแล้ว แต่ด้วยความพิเศษของความเป็นมนุษย์ ที่ว่าเจ้าเส้นผมหรือว่า เซลล์ที่ตายไปแล้วที่อยู่บนหนังศีรษะของคน สามารถงอกยาวขึ้นมาได้ กลายเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับหนึ่งชีวิต แต่ส่วนหนึ่งในความสมบูรณ์ของชีวิตหากวันหนึ่งวันใด เส้นผมของคุณแสดงอาการความผิดปกติ นั่นแสดงว่าเจ้าเส้นเล็ก ๆ บาง ๆ เส้นนี้เตือนคุณรู้ว่าเขากำลังมีปัญหา ทราบแล้วเปลี่ยน สัญญาณเตือนภัยจากเส้นผม 1. บนศีรษะเต็มไปด้วย รังแค ได้ยินคำว่ารังแคแล้ว คันหนังศรีษะ แต่ไม่ต้องตกใจอะไรมาก เป็นไปได้ว่าการเกิดรังแคบนศีรษะของคุณ อาจจะเกิดจากการใช้สารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสารเคมี หรือว่าสมุนไพรจากธรรมชาติมาใช้กับเส้นผมของคุณมากเกินไป เพราะอาจจะเป็นไปได้ว่า เส้นผมของคุณอาจจะมีอาการแพ้สารต่าง ๆ  เหล่านั้น อาจจะเป็นแชมพูหรือว่าครีมนวดผม แต่ที่แน่ๆ การเกิดรังแคของคุณอาจจะเกิดจากพฤติกรรมการกินของคุณนั่นเอง นั่นก็คือ คุณเป็นคนที่ชอบทานอาหารที่มีไขมันหรือว่า อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป แม้ว่าการเกิดรังแคจะไม่ส่งผลอันตรายต่อร่างกายของคุณ แต่ก็ทำให้รำคาญใจจนเสียภาพจน์ แต่เมื่อมีรังแคอยู่บนศีรษะของคุณ หนทางที่ดีที่สุดคุณควรจะเดินทางไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง 2. เส้นผมดูเบา […]

รู้จักข้อดีและข้อเสียก่อนการจัดฟันให้สวยงาม 1

รู้จักข้อดีและข้อเสียก่อนการจัดฟันให้สวยงาม 1

ความสวยงามไม่ได้ถูกจำกัดเพียงผิวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการมีฟันที่เรียงตัวสวยงามด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วฟันนั้นเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ในการเคี้ยว บดและตัดอาหารที่เข้าสู่ร่างกาย ให้มีชิ้นที่เล็กและละเอียดเพื่อช่วยให้กระเพาะอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทุกคนจะมีลักษณะของฟันที่แตกต่างกันไป บางคนโชคดีมีฟันที่เรียงตัวกันสวยงาม แต่บางคนฟันมีปัญหา ทั้งฟันที่เกซ้อนกัน ฟันที่เรียงกันแต่ยื่นออกมา ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถทำการแก้ไขได้ด้วยการจัดฟัน สำหรับการจัดฟันนั้นเป็นสิ่งที่คนมีปัญหาเกี่ยวกับฟันสามารถทำได้ แต่จะต้องเป็นผู้ที่มีปัญหาฟันหน้าเกซ้อนทับกัน หรือฟันหน้ามีลักษณะยื่นออกมาจากเหงือกเท่านั้น หรือออาจจะมีปัญหาอื่น ๆ ที่ทำให้ต้องจัดฟันเช่นการประสบอุบัติเหตุที่ทำให้ฟันสามารถล้มไม่เรียงตัวกันดังเดิมได้ จะต้องเข้าสู่กระบวนการจัดฟัน แต่ไม่ว่าการจัดฟันจะมีปัญหาใดก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์ทั้งสิ้น ซึ่งคนที่จะเริ่มจัดฟันจะต้องทำการศึกษาข้อดีและข้อเสียก่อนเพื่อจะได้รับประโยชน์จากการจัดฟันมากที่สุด ข้อดีของการจัดฟัน สำหรับคนที่กำลังจะเริ่มจัดฟันของตนเองเพื่อแก้ไขปัญหา อาทิเช่นปัญหาฟันเกซ้อนทับกัน ทำให้ฟันไม่สวย และยังทำให้เสียบุคลิกภาพ เพราะฉะนั้นการจัดฟันจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับการจัดฟันนั้นมีข้อดีจำนวนมาก คนที่กำลังจะเริ่มทำสามารถทำความเข้าใจก่อนการเริ่มตัดสินใจทำได้ 1. เพื่อให้ฟันได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการจัดฟัน เป็นวิธีการรักษาฟันในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาฟันไม่สบกัน ปัญหาฟันเกซ้อนทับกัน หรือปัญหาฟันยื่นมากว่าปกติ ก็ควรจะทำการจัดฟัน เพราะการจัดพันจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้แก่คุณได้ ถ้าหากเป็นคนที่มีปัญหาฟันไม่สบกันก็จะทำให้ฟันมีความเสมอกันและสามารถสบกันได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้สามารถเคี้ยวอาหารได้ดีเพิ่มขึ้น คนที่มีปัญหาฟันเกซ้อนทับกันอาจจะต้องใช้เวลาในการจัดฟันสักระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้ฟันได้เรียงตัวกันและเลิกซ้อนทับกัน ซึ่งในกรณีนี้จะเป็นการรักษาที่ยากที่สุด ส่วนคนที่มีปัญหาฟันหน้ายื่นออกมามากกว่าปกติก็สามารถใช้วิธีการจัดฟันแบบนี้ได้เช่นเดียวกันก็จะทำให้ฟันเสมอกันได้ 2. เพิ่มความสวยงามให้แก่คนที่จัดฟัน สำหรับการจัดพันนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของการเคี้ยวอาหารแล้ว ยังสามารถเพิ่มความสวยให้แก่ผู้ที่จัดฟันได้ โดยเฉพาะรอยยิ้ม ซึ่งบางคนจะต้องใช้รอยยิ้มในการทำงาน อย่างเช่น พนักงานประชาสัมพันธ์ที่จะต้องทำการยิ้มแย้มเพื่อตอบรับข้อมูลต่าง ๆ จากผู้ที่เข้ามาติดต่องาน เพื่อสร้างความประทับใจ เป็นต้น การมีฟันที่เรียงสวยงามจะทำให้เพิ่มความสวยงามให้แก่ใบหน้าของผู้ที่ทำการจัดฟันได้เพิ่มมากขึ้น […]

รูปแบบการเสริมจมูก

รูปแบบการเสริมจมูก

สำหรับรูปแบบการเสริมจมูก แบ่งได้ 3 รูปแบบหลัก ๆ ดังนี้ 1.การเสริมจมูกแบบเปิด (OpenTechnique) เป็นการเสริมจมูกแบบเปิดแผลที่บริเวณฐานจมูกใช้วิธีการกรีดจมูกในแนวดิ่งแล้วทำการแยกเนื้อและผิวหนังออกจากโครงจมูกซึ่งวิธีนี้จะเห็นรูปทรงของจมูกได้ง่ายปรับและแก้ไขปัญหาของจมูกได้ตรงจุดและครบถ้วนสมบูรณ์การตกแต่งทรงจมูกทำได้สวยเนียนเป็นธรรมชาติ 2.การเสริมจมูกแบบปิด (ClosedTechnique) การศัลยกรรมจมูกแบบปิด แผลจะอยู่ด้านในรูจมูก เป็นวิธีที่นิยมกันมาก เนื่องจากแผลเล็กไม่บวม แถมการทำใช้เวลาไม่นาน การดูแลรักษาไม่ยุ่งยากและที่สำคัญราคาถูก แต่วิธีนี้การเย็บรายละเอียดของแผลจะไม่เรียบเนียนเหมือนการเสริมจมูกแบบเปิด 3.เสริมจมูกแบบ (KoreaTechnique) เป็นการนำการเสริมจมูกแบบเปิดและแบบเปิดมาผสมกัน คือ การใช้วิธีการเสริมจมูกแบบเปิดก่อน เพื่อตัดกระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูกออก หลังจากปรับแต่งปลายจมูกเรียบร้อยแล้ว จึงทำการเสริมซิลิโคนเฉพาะสันจมูกจนถึงบริเวณปลายจมูก โดยการนำกระดูกอ่อนที่ตัดออกมาต่อที่ปลายจมูกเพื่อป้องกันปัญหาซิลิโคนทะลุ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมกันอย่างมากในเกาหลี การดูแลหลังผ่าตัด ในการทำศัลยกรรมเสริมจมูกใช้เวลาในการทำประมาณ  1 ชั่วโมง เท่านั้น หลังจากทำศัลยกรรมเสร็จจะต้องนอนพักเพื่อดูอาการข้างเคียง หากไม่มีอะไรผิดปกติทางแพทย์จะสั่งให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ โดยหลังจากการผ่าตัดควรพักอย่างน้อย 1 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย และต้องใช้เวลา 2 – 3 สัปดาห์กว่าจะสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ตามปกติ ในช่วงทำระยะแรกจะมีอาการบวมบ้างเล็กน้อย และจะค่อย ๆ หายไปเรื่อย ๆ 2 – 3 สัปดาห์ การดูแลหลังจากการผ่าตัดเสร็จไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก […]

เลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

เลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

เราคงปฏิเสธได้ยากว่าทุกวันนี้เราต้องพึ่งพาอาหารเสริมกันมากขึ้น นั่นก็เป็นเพราะว่าในแต่ละวันเราไม่สามารถทานอาหารได้ครบ 5 หมู่ ส่งผลให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนเพียงพอ เป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆ หลายโรคด้วยกัน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดสำหรับเรา  เลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ดี ก็มีชัยไปเกินครึ่งเลยนะ ทำไมเราถึงต้องทานอาหารเสริม เพราะอาหารเสริมจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในตลาดบ้านเรามีอยู่หลายชนิดด้วยกันดังนี้ อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ  ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดนี้มักจะประกอบไปด้วย วิตามินแร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เมื่อทานเข้าไปแล้ว จะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น อดทนต่อภาวะความเครียดและอาการเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ควรเลือกทานตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรจะดีที่สุด เพราะแพทย์หรือเภสัชกรจะทราบว่าเราต้องทานอาหารเสริมแบบไหนจึงจะดีต่อร่างกาย หากซื้อมาทานเองอาจส่งผลเสียให้กับร่างกายได้ อาหารเสริมผิวขาว ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่สาวๆ เพราะมีความเชื่อกันว่าผู้หญิงที่มีผิวขาวจะดูสวยกว่าผู้หญิงผิวคล้ำ อย่างไรก็ดี ปกติแล้วร่างกายของเราจะมีสารจำพวกกลูต้าไธโอนในภาวะสมดุลอยู่แล้ว หากสาวๆ จะเลือกทานอาหารเสริมประเภทนี้เพิ่ม ต้องเลือกทานผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและทานอย่างระมัดระวัง อาหารเสริมลดน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดนี้ ควรเลือกทานอย่างระมัดระวังเพราะแร่ธาตุในร่างกายอาจเกิดภาวะไม่สมดุลขึ้นมาได้ และหากเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพอาจทำให้ร่างกายทรุดโทรมเพราะขาดสารอาหารได้ อาหารเสริมบำรุงสมอง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดนี้จะเป็นพวกน้ำมันปลา ใบแปะก๊วย วิตามินต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มเป้าหมายจะเป็นนักเรียน นักศึกษา การเลือกทานควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าได้ผลจริง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดใดก็ตาม ควรเลือกทานโดยพิจารณาและขอคำปรึกษาจากแพทย์หรือเภสัชกร ไม่ควรทานตามใจตัวเองหรือทานแทนการใช้ยารักษา หรือทานร่วมกับยารักษาโรคไม่ว่าชนิดใดก็ตาม จริงอยู่ที่ว่าอาหารเสริมเหล่านี้จะมีสารสกัดเหมือนยารักษาที่เราใช้ แต่ก็ไม่สามารถเอามาใช้แทนกันได้ ทางที่ดี ก่อนเลือกซื้อมาทานควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญก่อนจะดีกว่า ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของร่างกายเรา อยากให้ร่างกายของเราแข็งแรงอยู่กับเราไปนานๆ […]

รู้ลึกเรื่องผิวแพ้ง่าย

รู้ลึกเรื่องผิวแพ้ง่าย

เรื่อง การดูแลผิว ในยุคสมัยนี้เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวกับผู้หญิงเป็นอย่างมากไม่เพียงแต่ผู้หญิงที่ต้อง การดูแลผิว ของตนเองให้ดีอยู่ตลอดเวลายังมีผู้ชายส่วนใหญ่ก็เริ่มที่จะหันมาดูแลผิวของตนเองกันบ้างแล้ว ซึ่งเรื่องของผิวพรรณเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ปฏิเสธกันไม่ได้เลยว่าจะไม่มีท่านใดที่ไม่สนใจผิวของตนเองเลยแต่ละเพศแต่ละวัยหรือแม้กระทั่งแต่ละบุคคลจะมีผิวที่แตกต่างกันไป แต่ปัญหาโดยส่วนใหญ่นั้นจะพบผู้ที่มี ผิวแพ้ง่าย มากที่สุด ผิวแพ้ง่ายมีลักษณะอย่างไร ผู้คนส่วนใหญ่ต่างมีผิวที่แพ้ง่ายซึ่ง ผิวแพ้ง่าย นั้นจะทำให้เกิดความระคายเคืองบนในหน้าทำให้มีอาการคันหรือแดงตามมาที่มักจะเกิดการการสัมผัสกับฝุ่นละออง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว , เครื่องสำอางค์ , สบู่ล้างมือ , ยาสระผม , ทิชชู่เปียก และครีมกันแดดทั่วไปที่มีส่วนผสมคือน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์อยู่ด้วยเมื่อผู้ที่มี ผิวแพ้ง่าย บอบบางเกิดการสัมผัสนั้นจะเกิดสิวหน้าแดงเป็นผื่นได้ง่าย ผิวแพ้ง่ายเกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ผิวแพ้ง่าย นั้นทำให้หลายต่อหลายท่านเป็นกังวลใจอย่างมากไม่ว่าจะในเรื่องของการเป็นอยู่ การกินอาหาร การดูแลผิว และเรื่องต่าง ๆ มากมายอีกหลายเรื่อง ซึ่งในบทความนี้จะมากล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้เกิด ผิวแพ้ง่าย ดังต่อไปนี้ 1. ปัจจัยภายใน ผิวของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกันโดยเฉพาะผิวของเด็กนั้นจะมีความบอบบางมากที่สุดเพราะการปกป้องผิวนั้นน้อยมากซึ่งในสภาพผิวที่มีความบอบบางนั้นจะส่งผลให้ผิวมีความไวต่อสารเคมีต่าง ๆ การมีฮอร์โมนที่กระตุ้นจากภายในซึ่งปัจจัยภายในเหล่านี้จะมีผลอย่างมากต่อสภาพผิวไม่เพียงแค่นั้นสภาพผิวที่มีความบอบบางจะมีการดูแลที่ยากมากเลยทีเดียว 2. ปัจจัยภายนอก ปัจจัยภายนอกเป็นอีกสาเหตุหลักที่ควบคุมยากไม่แพ้กันซึ่งสภาพผิวต้องได้รับความดูแลเป็นพิเศษปัจจัยภายนอกมีมากมายที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองดังต่อไปนี้ สภาพอากาศ : ในแต่ละภูมิภาคหรือแต่ละประเทศมีสภาพอากาศที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นอากาศที่ร้อนหรือหนาวก็จะส่งผลต่อสภาพผิวของแต่ละคนซึ่งอากาศร้อนจะทำให้หน้ามันได้ง่ายไม่สามารถที่จะควบคุมเหงื่อหรือความมันบนใบหน้าได้อีกด้วย และอากาศหนาวนั้นจะทำให้หน้าแห้งเกิดความระคายเคืองได้ง่ายเหมือนกัน ผลิตภัณฑ์ : ผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่นั้นไม่ตรงกับสภาพผิว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เป็นอีกปัจจัยหลักที่สำคัญมากเมื่อผู้ที่มีหน้าแห้งแต่ยังใช้สบู่ก้อนในการล้างหน้านั้นจะยิ่งทำให้หน้าแห้งแล้วเกิดการระคายเคืองในที่สุด และผลิตภัณฑ์บางชนิดที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอมนั้นจะเป็นอันตรายมากต่อผู้ที่มี […]