โปรตีน มีความจำเป็นมาก สำหรับ คนลดน้ำหนัก

โปรตีน มีความจำเป็นมาก สำหรับ คนลดน้ำหนัก

โปรตีนมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย เชื่อว่าเรื่องนี้ทุกคนก็คงจะทราบกันดี โดยเฉพาะในช่วงการลดน้ำหนักที่เราจะลดการรับประทานคาร์โบไฮเดรตหรือไขมันลง โปรตีนก็จะถูกนำมาใช้เผาผลาญเป็นพลังงานมากขึ้น แต่ถ้าหากเรารับประทานโปรตีนไม่เพียงพอก็จะทำให้ร่างกายไปดึงโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้แทน ซึ่งถ้าขาดโปรตีนติดต่อเป็นเวลานานจะทำให้กล้ามเนื้อสลายตัว และอ่อนแรงลง เราจึงต้องรับประทานโปรตีนให้มากขึ้น ซึ่งไม่ได้มีแต่ในเนื้อสัตว์เท่านั้น ลองมาดูอาหารที่อุดมด้วยโปรตีนเหล่านี้กันดีกว่า ทั้งช่วยในการควบคุมน้ำหนัก แถมพ่วงด้วยคุณประโยชน์ในการดูแลสุขภาพอีกเพียบ โปรตีนใดบ้างที่ คนลดน้ำหนักต้องการ   คีนัวเป็นพืชในตระกูลข้าวที่ไม่มีโปรตีนกลูเตน แถมยังอุดมไปด้วยโปรตีนและไฟเบอร์ เหมาะสำหรับการลดน้ำหนัก เพราะเมื่อเรารับประทานคีนัวเข้าไปแล้วก็จะทำให้อยู่ท้องนานขึ้น ไม่รู้สึกหิวในระหว่างมื้อ ลดการกินจุบจิบและการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อลงได้ ถ้าอยากผอมนี่ล่ะตัวช่วยที่เวิร์กสุด ๆ เนยถั่วที่ว่านี้จะต้องเป็นเนยถั่วที่ไม่เติมสารเติมแต่งอย่างน้ำตาล หรือน้ำเชื่อมข้าวโพดนะคะ ควรจะเป็นเนยถั่วล้วนจะดีที่สุด เพราะเนยถั่วแค่เพียง 2 ช้อนโต๊ะ ก็มีโปรตีนถึง 7 กรัมแล้ว อีกทั้งยังอุดมไปด้วยไขมันที่ดีกับสุขภาพ ซึ่งสามารถช่วยบำรุงหัวใจ ป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบหลอดเลือดหัวใจ จะรับประทานเปล่า ๆ หรือรับประทานกับขนมปังโฮลเกรน ไม่ก็ผสมลงในเครื่องดื่มสมูทตี้ผัก-ผลไม้ ก็ดีเหมือนกันนะคะ แต่อย่าเผลอกินจนเยอะเกินไป เดี๋ยวจะอ้วนเอาได้   ไข่ไก่เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีที่สุดชนิดหนึ่ง ยิ่งถ้าหากรับประทานไข่เป็นอาหารเช้า จะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่และลดความอยากน้ำตาลลงไปได้เยอะเลย ใครที่อยากจะลดน้ำหนัก ขอแนะนำให้รับประทานไข่นี่ล่ะค่ะ แต่ก็ไม่ควรรับประทานมากกว่าวันละ 2 ฟอง เพราะไข่ 1 ฟอง มีปริมาณคอเลสเตอรอล 186 มิลลิกรัม […]

แค่นอนให้พอ ก็ลดความอ้วนได้

Unแค่นอนให้พอ ก็ลดความอ้วนได้

ใครจะไปคิดว่าการนอน จะช่วย ลดความอ้วน แต่มันเป็นเรื่องจริง เพียงแค่คุณนอนให้ผอม กัน เพราะการนอนหลับอย่างมีคุณภาพจะช่วยให้กระบวนการฟื้นฟูร่างกายเป็นไปอย่างสมบูรณ์ และเป็นกุญแจสำคัญของการลดน้ำหนักด้วย หากนอนอย่างมีคุณภาพ จะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ราว 300 กิโลแคลอรี่ และหากเป็นเช่นนี้ทุกวัน เพียง 1 เดือน ก็จะลดน้ำหนักลงไปได้ 1 กิโลกรัม ถ้าคิดจะ นอนให้ผอม ต้องนอนระหว่างช่วงเวลา 4 ทุ่ม – ตีสาม เพราะช่วงนี้เป็นช่วงเวลาทองของโกร๊ธฮอร์โมนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยฟื้นฟูร่างกาย โกร๊ธฮอร์โมนจะหลั่งออกมาได้ง่ายที่สุดช่วงนี้ การนอนหลับในช่วงนี้จะส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักมากที่สุด นอนอย่างไรถึงจะ ลดความอ้วนได้ การนอนหลับมีช่วงใหญ่ๆ แบ่งอย่างง่ายๆ คือ ช่วงนอนหลับธรรมดา และช่วงนอนหลับฝันหลับให้สนิทตั้งแต่ 3 ชั่วโมงแรก ช่วงนอนหลับธรรมดาถือเป็นช่วงเวลาสำคัญเพราะจะมีช่วงที่ร่างกายหลับลึกมากที่สุดได้สองช่วง และโกร๊ธฮอร์โมนจะหลั่งออกมาในช่วงที่เริ่มหลับ 3 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นจะแทบไม่หลั่งอีกเลย เพราะฉะนั้น 3 ชั่วโมงแรกของการนอน จึงสำคัญที่สุด ที่สำคัญคือควรอยู่ในช่วงไม่เกินตีสามด้วยนะ ถึงจะส่งผลทำให้น้ำหนักลดลงมาได้ หลับต่อเนื่องให้ได้ 7 ชั่วโมง ผลการวิจัยจากสหรัฐอเมริการะบุว่า คนที่นอนนาน 5 […]

เปลือยหน้าสดแบบไหนให้สวยเป๊ะ ไม่โทรมและไม่ต้องอายใคร

เปลือยหน้าสดแบบไหนให้สวยเป๊ะ ไม่โทรมและไม่ต้องอายใคร

มันต้องมีสักวันแหละที่สาว ๆ ขี้เกียจแต่งหน้า หรืออยากปล่อยหน้าให้เปลือยสด ไร้แป้ง ไร้บลัชออนปกปิดกันบ้าง แต่การเผยผิวได้อย่างมั่นใจนั้นต้องเป็นผิวใสสวยอย่างธรรมชาติ ไม่ หมองคล้ำ ไร้ริ้วรอย ที่สำคัญ มองมุมไหนก็ต้องดูไม่โทรม ลองนำเคล็ดลับการเปลือยหน้าสดแบบไม่อายใครไปใช้กันดู ไม่แน่นะ สาว ๆ อาจจะถูกใจกับใบหน้าโดยไม่ต้องง้อเครื่องสำอางก็ได้  เคล็ดลับที่ 1 สะอาด – สครับ – มาส์ก อย่าได้ขาด ก่อนที่สาว ๆ จะเผยผิวออกมาต้องเริ่มจากการล้างหน้าให้สะอาดหมดจด เพราะถือเป็นพื้นฐานของการมีใบหน้าที่กระจ่างใสไร้ที่ติ นอกจากจะเช็ดล้างเครื่องสำอางอย่างดีแล้ว สาว ๆ จะต้องสครับผิวและมาส์กหน้าอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะการสครับจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก มีวิธีการง่าย ๆ ที่สามารถจัดหาวัตถุดิบราคาไม่แพงและทำเองได้ เช่น สูตรเกลือผสมน้ำมะกอกอย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วนำมาขัดเบา ๆ บนใบหน้าโดยวนเป็นวงกลมสัก 2-5 นาทีโดยประมาณแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรืออีกสูตรหน้าใสโดยการนำน้ำตาลทราย 2 ช้อนชาผสมกับน้ำมันเมล็ดองุ่น 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วนำมาสครับบนใบหน้าสัก 1-3 […]

ระดับความหอมของน้ำหอม

ระดับความหอมของน้ำหอม

น้ำหอมแต่ละชนิดจะมีระดับความหอมไม่เหมือนกัน บางชนิดอาจจะหอมมาก จนถึงฉุน แต่บางชนิดหอมอ่อน ๆ ชวนหลงใหล เรามาทำความรู้จักกลิ่นน้ำหอมกัน 1.Top Note เป็นกลิ่นที่หอมระเหยออกมาเมื่อฉีดในช่วงแรก ๆ ส่วนใหญ่เป็นแนวกลิ่นสดชื่นแบบกลิ่นส้ม มะนาว หรือกลิ่นดอกไม้ ซึ่งกลิ่นจะอยู่นาน 5 – 10 นาที 2.Middle Note  กลิ่นน้ำหอมที่กระจายกลิ่นเต็มที่ เป็นกลิ่นน้ำหอมที่บ่งบอกบุคลิกภาพของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี มีส่วนผสมที่คัดสรรเป็นพิเศษเพื่อให้โดดเด่นเฉพาะตัว จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่กลิ่นจะติดทนนาน 2 – 4 ชั่วโมง โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นประเภทไม้หอม วานิลลา และกลิ่นดอกไม้หายากนานาพัน เป็นต้น 3.Base Note  เป็นกลิ่นที่ติดผิวได้นานที่สุด ผสมผสานเข้ากับกลิ่นกายเป็นบุคลิกเฉพาะบุคคล จะมีกลิ่นที่ติดทนนานกว่าน้ำหอมประเภทอื่น ๆ 4 – 6 ชั่วโมง และจะค่อย ๆ จางหายไป กลิ่นส่วนใหญ่จะเป็นแนวมัสก์หรืออำพัน เป็นต้น กลิ่นน้ำหอมต่าง ๆ ที่ควรรู้ น้ำหอมจะมีลักษณะเฉพาะตัว เราสามารพเลือกกลิ่นน้ำหอมที่ชอบและรู้ว่าน้ำหอมแต่ละกลิ่นมีกลิ่นเหมือนอะไร เรามาทำความรู้จักกับกลิ่นน้ำหอมต่าง […]

สกินแคร์ ทาแค่ไหนถึงจะพอ ?

สกินแคร์ ทาแค่ไหนถึงจะพอ ?

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มักจะละเลยกับการทาสกินแคร์เพื่อบำรุงผิว แต่ไปจัดหนักจัดเต็มกับการลงเมคอัพแทน ผิดค่ะ! เพราะการจะมีเมคอัพที่สวย ดูเรียบเนียนไปกับผิว ต้องเริ่มจากการบำรุงอย่างดีก่อน เคยได้ยินประโยคว่า ‘สวยจากภายในสู่ภายนอก’ กันไหมคะ ? กับผิวเราเองก็เช่นกัน ยิ่งเราบำรุงอย่างล้ำลึก ก็จะยิ่งทำให้ผิวสุขภาพ อยากจะทำอะไรต่อจากนั้น ก็ดูดีไปหมด สกินแคร์ ควรทาอะไรก่อน ? ก่อนอื่นเราขอทำความเข้าใจตั้งแต่สเต็ปการลงก่อน โดยปกติแล้วสาว ๆ มักจะคิดว่าต้องเรียงลำดับตามประเภทสกินแคร์ เซรั่มแล้วไปครีม ครีมแล้วอายครีม ปิดด้วยสลีปปิ้งมาส์ก ถูกต้องบางส่วนค่ะ เพราะการลงสกินแคร์ให้ได้ประสิทธิภาพ คือ การลงตามความหนาแน่น หรือความเหลวข้น หากสกินแชร์ชิ้นไหนมีความบาง เนื้อเหลว สามารถทาก่อนได้เลย และตามด้วยผลิตภัณฑ์ที่เนื้อหนักและเหนียวตามมาจะดีที่สุด เพื่อการดูดซึมลงสู่ผิวอยากมีประสิทธิภาพ สกินแคร์ ควรทาแค่ไหนถึงจะพอ ? แน่นอนว่าต้องมีคำถามว่าแค่ไหนถึงจะพอ เราขอแยกตามประเภทและเรียงลำดับขั้นตอนให้ดังนี้ คลีนเซอร์ หรือ โฟมล้างหน้า : เนื่องจากขั้นตอนนี้จะมาหลังจากเราเช็ดเครื่องสำอางด้วยคลีนซิ่งออกแล้ว ผิวหน้าจะขาดความชุ่มชื้นไปพอสมควร ดังนั้น ควรจะเลือกคลีนเซอร์ที่ไม่ทำให้หน้าแห้งเอี้ยดจนเกินไป และใช้ในปริมาณเท่ากับเหรียญห้าบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และใบหน้าของแต่ละคนด้วยนะ เอสเซนต์ หรือ น้ำตบ : ทริคผิวฉ่ำแบบเกาหลีคือต้องลงน้ำตบ […]

เลือกครีมทาหน้าอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว

เลือกครีมทาหน้าอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว

ครีมบำรุงผิวหน้า จะช่วยปรับสีผิวให้ดูสมดุล หน้าขาวเนียนมีออร่าเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยปกป้องผิว ให้ผิวเกิดความสมดุล ช่วยปกป้องผิวจากสิ่งสกปรกและแสงแดดจากภายนอกที่เข้ามากระทบผิวได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงยังช่วยฟื้นฟูผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอยแห้ง แก่กว่าวัยอันสมควร 1.ผิวทั่วไป เป็นผิวที่ไม่มันจนเกินไปหรือไม่แห้งจนเกินไป ควรเลือกใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของน้ำเป็นหลัง อาจจะเป็นเอสเซ้นส์ เจล หรืออีมัลชั่น เพราะเป็นเนื้อที่บางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ 2.ผิวมัน สำหรับคนที่มีผิวมันการเลือก ครีมบำรุงผิวหน้า ให้เหมาะกับสภาพผิวเป็นสิ่งสำคัญหากใช้ไม่ถูกประเภทหรือใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่ไม่เหมาะกับผิวอาจจะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ควรเลือกใช้ครีมที่เป็นเนื้อโลชั่นหรือเซรั่ม ที่ระบุไว้ว่าไม่อุดตัดต่อรูขุมขน เพื่อจะได้ลดปัญหาในการเกิดสิว 3.ผิวแห้ง เหมาะกับครีมบำรุงที่มีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำมัน และควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าเป็นหลัก หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของปิโตรเรียมจะช่วยกักเก็บน้ำใต้ผิวได้เป็นอย่างดี 4.ผิวแพ้ง่าย เป็นผิวที่ไวต่อสิ่งรบกวนจากภายนอก เป็นผิวที่ดูแลเป็นพิเศษ และดูแลอยากมากพอสมควร เมื่อเจอสารเคมีและสภาพอากาศที่เป็นพิษต่อผิวก็จะมีอาการระคายเคือง มีผื่นแดง รู้สึกคันหรือแสบผิวง่าย การเลือกผลิตภัณฑ์ควรเลือกจากส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติเป็นหลัก และต้องมีความอ่อนโยนต่อผิว เช่นว่านหางจระเข้ คามายล์ และควรหลีกเลี่ยงครีมที่มีการแต่งกลิ่นหรือมีกรดเป็นส่วนประกอบเป็นอันขาด 5.ผิวผู้สูงวัย การที่อายุเรามากขึ้นทำให้ ครีมบำรุงผิวหน้า ได้ประสิทธิ์ภาพน้อยลง ต่อมไขมันใต้ผิวหนังลดลงจนแห้งกร้านมีริ้วรอยมากขึ้น จึงควรเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับวัย และควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมของน้ำเป็นหลัก เพื่อคงความเนียนนุ่มและชุ่มชื้นแก่ผิวมากขึ้น  ยิ่งเป็นครีมที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระหรือ AHA เป็นส่วนประกอบยิ่งควรหยิมมาใช้เป็นพิเศษ การเลือกครีมทาผิวให้เหมาะกับสภาพผิวเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผิวเราได้รับ การบำรุง อย่างเต็มประสิทธิภาพ […]

ส่องสัญญาณเตือน เส้นผมมีปัญหา 2

ส่องสัญญาณเตือน เส้นผมมีปัญหา 2

4. สภาพมีผมมัน เหมือนกับใส่เจล  ตัวคุณเองก็รู้สึกไม่สบายใจ เมื่อเห็นเพื่อนหรือว่าคนรอบข้างมีผมมันเยิ้มดูแล้วไม่สบายใจ เพราะอาการของคนบางผมมันเยิ้มดูไม่สะอาดสายตามากเลย การที่เพื่อนหรือว่าคนรอบข้างของคุณต้องมีเส้นผมที่มันเยิ้ม สาเหตุหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า สภาพร่างกายของเพื่อนหรือว่าคนรอบข้างของคุณได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ หรือทานอาหารประเภทไขมันสัตว์มากเกินไป การทานอาหารประเภทไขมันที่มากเกินไป นอกจากส่งผลต่อความมันบนเส้นผมของคุณแล้ว ผลที่ตามมาเมื่อทานไปมาก ๆ จะเกิดการสะสมภายในร่างกาย จะส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณด้วยเหมือนกัน ผลที่ตามมาคือโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด เมื่อรู้ต้นสายปลายเหตุขนาดนี้กับตัวคุณเอง ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของคุณ ก่อนที่จะสายเกินแก้ถ้าแย่เดี๋ยวจะแก้ไม่ทัน  5. ผมสีดอกเลาเปลี่ยนเป็นขาวโพลนเร็วกว่าที่คิด  ตัวคุณเองอาจจะตกใจได้เหมือนกัน หากว่าวันหนึ่ง ผมบนศีรษะของคุณเปลี่ยนจากสีดำกลายเป็นสีขาวโพลน อย่างไม่รู้สาเหตุ ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ สามารถเกิดขึ้นกับคนใดคนหนึ่งได้ เหตุผลหนึ่งนั่นก็คือการเกิดผมหงอก หรือว่าเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีขาว มาจาการการถ่ายทอดทางพันธุกรรมสามารถเกิดขึ้นได้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ จากการศึกษาพบว่าผู้หญิงเส้นผมจะเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีเทาก่อนที่หงอกเป็นสีขาว ด้วยวัยเพียง 30-40 ปี เท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ หันกลับไปดูคุณพ่อคุณแม่ของคุณสอบถามท่านว่าผมของท่านเปลี่ยนสีตั้งแต่เมื่อไหร่ หากได้รับคำตอบว่า เปลี่ยนตั้งแต่อายุยังน้อย นั่นเองพอสบายใจได้ว่า ผมสีดอกเลาของคุณมาจากพันธุกรรม  6. ผมหงอกก่อนเวลาได้  เงื่อนไขข้อนี้ คุณไม่ต้องตกใจอะไรนั่งทำงานที่ออฟฟิศอยู่ดี ๆ ไงผมสีดอกเลาขึ้นมาเฉยเลย เรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะเวลาส่วนใหญ่ของวัยทำงาน คุณใช้ไปอยู่กับการหมกหมุ่นกับงานเครียด ๆ ที่วิ่งเข้ามาบนโต๊ะคุณอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความเครียดที่อาจเกิดขึ้นนี้มีส่วนไม่น้อยที่ทำให้สีผมของคุณต้องเปลี่ยนสีไป ก่อนเวลาอันควรที่จะเป็น […]

ส่องสัญญาณเตือน เส้นผมมีปัญหา 1

ส่องสัญญาณเตือน เส้นผมมีปัญหา 1

สำหรับชีวิตคนเรา เป็นตัวเป็นตนขึ้นมาได้ล้วนประกอบด้วยสิ่งต่าง ๆ มากมาย สำคัญบ้าง ไม่สำคัญบ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนประกอบหนึ่งของชีวิตที่มีความสำคัญต่อชีวิตชีวิตหนึ่งมาก สิ่งนั้นก็คือเส้นผม เมื่อพูดถึง เส้นผม นั่นก็คือ เซลล์ส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่เป็นในส่วนของเซลล์ที่ตายไปแล้ว แต่ด้วยความพิเศษของความเป็นมนุษย์ ที่ว่าเจ้าเส้นผมหรือว่า เซลล์ที่ตายไปแล้วที่อยู่บนหนังศีรษะของคน สามารถงอกยาวขึ้นมาได้ กลายเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับหนึ่งชีวิต แต่ส่วนหนึ่งในความสมบูรณ์ของชีวิตหากวันหนึ่งวันใด เส้นผมของคุณแสดงอาการความผิดปกติ นั่นแสดงว่าเจ้าเส้นเล็ก ๆ บาง ๆ เส้นนี้เตือนคุณรู้ว่าเขากำลังมีปัญหา ทราบแล้วเปลี่ยน สัญญาณเตือนภัยจากเส้นผม 1. บนศีรษะเต็มไปด้วย รังแค ได้ยินคำว่ารังแคแล้ว คันหนังศรีษะ แต่ไม่ต้องตกใจอะไรมาก เป็นไปได้ว่าการเกิดรังแคบนศีรษะของคุณ อาจจะเกิดจากการใช้สารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสารเคมี หรือว่าสมุนไพรจากธรรมชาติมาใช้กับเส้นผมของคุณมากเกินไป เพราะอาจจะเป็นไปได้ว่า เส้นผมของคุณอาจจะมีอาการแพ้สารต่าง ๆ  เหล่านั้น อาจจะเป็นแชมพูหรือว่าครีมนวดผม แต่ที่แน่ๆ การเกิดรังแคของคุณอาจจะเกิดจากพฤติกรรมการกินของคุณนั่นเอง นั่นก็คือ คุณเป็นคนที่ชอบทานอาหารที่มีไขมันหรือว่า อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป แม้ว่าการเกิดรังแคจะไม่ส่งผลอันตรายต่อร่างกายของคุณ แต่ก็ทำให้รำคาญใจจนเสียภาพจน์ แต่เมื่อมีรังแคอยู่บนศีรษะของคุณ หนทางที่ดีที่สุดคุณควรจะเดินทางไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง 2. เส้นผมดูเบา […]

รู้จักข้อดีและข้อเสียก่อนการจัดฟันให้สวยงาม 1

รู้จักข้อดีและข้อเสียก่อนการจัดฟันให้สวยงาม 1

ความสวยงามไม่ได้ถูกจำกัดเพียงผิวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการมีฟันที่เรียงตัวสวยงามด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วฟันนั้นเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ในการเคี้ยว บดและตัดอาหารที่เข้าสู่ร่างกาย ให้มีชิ้นที่เล็กและละเอียดเพื่อช่วยให้กระเพาะอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทุกคนจะมีลักษณะของฟันที่แตกต่างกันไป บางคนโชคดีมีฟันที่เรียงตัวกันสวยงาม แต่บางคนฟันมีปัญหา ทั้งฟันที่เกซ้อนกัน ฟันที่เรียงกันแต่ยื่นออกมา ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถทำการแก้ไขได้ด้วยการจัดฟัน สำหรับการจัดฟันนั้นเป็นสิ่งที่คนมีปัญหาเกี่ยวกับฟันสามารถทำได้ แต่จะต้องเป็นผู้ที่มีปัญหาฟันหน้าเกซ้อนทับกัน หรือฟันหน้ามีลักษณะยื่นออกมาจากเหงือกเท่านั้น หรือออาจจะมีปัญหาอื่น ๆ ที่ทำให้ต้องจัดฟันเช่นการประสบอุบัติเหตุที่ทำให้ฟันสามารถล้มไม่เรียงตัวกันดังเดิมได้ จะต้องเข้าสู่กระบวนการจัดฟัน แต่ไม่ว่าการจัดฟันจะมีปัญหาใดก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์ทั้งสิ้น ซึ่งคนที่จะเริ่มจัดฟันจะต้องทำการศึกษาข้อดีและข้อเสียก่อนเพื่อจะได้รับประโยชน์จากการจัดฟันมากที่สุด ข้อดีของการจัดฟัน สำหรับคนที่กำลังจะเริ่มจัดฟันของตนเองเพื่อแก้ไขปัญหา อาทิเช่นปัญหาฟันเกซ้อนทับกัน ทำให้ฟันไม่สวย และยังทำให้เสียบุคลิกภาพ เพราะฉะนั้นการจัดฟันจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับการจัดฟันนั้นมีข้อดีจำนวนมาก คนที่กำลังจะเริ่มทำสามารถทำความเข้าใจก่อนการเริ่มตัดสินใจทำได้ 1. เพื่อให้ฟันได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการจัดฟัน เป็นวิธีการรักษาฟันในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาฟันไม่สบกัน ปัญหาฟันเกซ้อนทับกัน หรือปัญหาฟันยื่นมากว่าปกติ ก็ควรจะทำการจัดฟัน เพราะการจัดพันจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้แก่คุณได้ ถ้าหากเป็นคนที่มีปัญหาฟันไม่สบกันก็จะทำให้ฟันมีความเสมอกันและสามารถสบกันได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้สามารถเคี้ยวอาหารได้ดีเพิ่มขึ้น คนที่มีปัญหาฟันเกซ้อนทับกันอาจจะต้องใช้เวลาในการจัดฟันสักระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้ฟันได้เรียงตัวกันและเลิกซ้อนทับกัน ซึ่งในกรณีนี้จะเป็นการรักษาที่ยากที่สุด ส่วนคนที่มีปัญหาฟันหน้ายื่นออกมามากกว่าปกติก็สามารถใช้วิธีการจัดฟันแบบนี้ได้เช่นเดียวกันก็จะทำให้ฟันเสมอกันได้ 2. เพิ่มความสวยงามให้แก่คนที่จัดฟัน สำหรับการจัดพันนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของการเคี้ยวอาหารแล้ว ยังสามารถเพิ่มความสวยให้แก่ผู้ที่จัดฟันได้ โดยเฉพาะรอยยิ้ม ซึ่งบางคนจะต้องใช้รอยยิ้มในการทำงาน อย่างเช่น พนักงานประชาสัมพันธ์ที่จะต้องทำการยิ้มแย้มเพื่อตอบรับข้อมูลต่าง ๆ จากผู้ที่เข้ามาติดต่องาน เพื่อสร้างความประทับใจ เป็นต้น การมีฟันที่เรียงสวยงามจะทำให้เพิ่มความสวยงามให้แก่ใบหน้าของผู้ที่ทำการจัดฟันได้เพิ่มมากขึ้น […]

รูปแบบการเสริมจมูก

รูปแบบการเสริมจมูก

สำหรับรูปแบบการเสริมจมูก แบ่งได้ 3 รูปแบบหลัก ๆ ดังนี้ 1.การเสริมจมูกแบบเปิด (OpenTechnique) เป็นการเสริมจมูกแบบเปิดแผลที่บริเวณฐานจมูกใช้วิธีการกรีดจมูกในแนวดิ่งแล้วทำการแยกเนื้อและผิวหนังออกจากโครงจมูกซึ่งวิธีนี้จะเห็นรูปทรงของจมูกได้ง่ายปรับและแก้ไขปัญหาของจมูกได้ตรงจุดและครบถ้วนสมบูรณ์การตกแต่งทรงจมูกทำได้สวยเนียนเป็นธรรมชาติ 2.การเสริมจมูกแบบปิด (ClosedTechnique) การศัลยกรรมจมูกแบบปิด แผลจะอยู่ด้านในรูจมูก เป็นวิธีที่นิยมกันมาก เนื่องจากแผลเล็กไม่บวม แถมการทำใช้เวลาไม่นาน การดูแลรักษาไม่ยุ่งยากและที่สำคัญราคาถูก แต่วิธีนี้การเย็บรายละเอียดของแผลจะไม่เรียบเนียนเหมือนการเสริมจมูกแบบเปิด 3.เสริมจมูกแบบ (KoreaTechnique) เป็นการนำการเสริมจมูกแบบเปิดและแบบเปิดมาผสมกัน คือ การใช้วิธีการเสริมจมูกแบบเปิดก่อน เพื่อตัดกระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูกออก หลังจากปรับแต่งปลายจมูกเรียบร้อยแล้ว จึงทำการเสริมซิลิโคนเฉพาะสันจมูกจนถึงบริเวณปลายจมูก โดยการนำกระดูกอ่อนที่ตัดออกมาต่อที่ปลายจมูกเพื่อป้องกันปัญหาซิลิโคนทะลุ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมกันอย่างมากในเกาหลี การดูแลหลังผ่าตัด ในการทำศัลยกรรมเสริมจมูกใช้เวลาในการทำประมาณ  1 ชั่วโมง เท่านั้น หลังจากทำศัลยกรรมเสร็จจะต้องนอนพักเพื่อดูอาการข้างเคียง หากไม่มีอะไรผิดปกติทางแพทย์จะสั่งให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ โดยหลังจากการผ่าตัดควรพักอย่างน้อย 1 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย และต้องใช้เวลา 2 – 3 สัปดาห์กว่าจะสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ตามปกติ ในช่วงทำระยะแรกจะมีอาการบวมบ้างเล็กน้อย และจะค่อย ๆ หายไปเรื่อย ๆ 2 – 3 สัปดาห์ การดูแลหลังจากการผ่าตัดเสร็จไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก […]