แต่งหน้าปกปิดรอยสิว ง่ายๆ ด้วยคอนซีลเลอร์
สำหรับการแต่งหน้านั้นหนึ่งสิ่งสำคัญก็คือการปกปิดรอยสิว รอยต่างๆรวมทั้งปัญหาผิวต่างๆโดยเฉพาะวันที่ต้องการความเนียนสวยตลอดทั้งวัน ดังนั้นเราจึงต้องมีเทคนิคดีๆในการแต่งหน้า ซึ่งนอกจากรองพื้นที่เป็นไอเท็มสำคัญ แล้วยังมีคอนซีเลอร์ที่จะช่วยในการปกปิดรอยต่างๆเฉพาะจุดได้ดี เพื่อให้การปกปิดรอยนั้นได้ผลลัพธ์ตอบโจทย์ ลองมาดูเทคนิคลงคอนซีเลอร์เหล่านี้กันเลย 1.การเลือกคอนซีเลอร์ให้ตรงกับสีผิวและสภาพผิว เป็นเทคนิคสำคัญคือจะต้องเลือกให้เท่ากับระดับสีผิวเพื่อไม่ให้บริเวณที่ลงคอนซีเลอร์ดูลอยหรือเข้มเกินไปและอีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือการใช้คอนซีเลอร์ให้ตรงกับสภาพผิวแต่ละจุด เนื่องจากคอนซีเลอร์นั้นมีอยู่หลายสีที่สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด โดยเฉพาะในเรื่องของสิวและรอยที่ตามมา สีเขียว-เหมาะกับการปกปิดรอยแดง รอยสิวแดงๆจะสามารถปกปิดได้เนียน สีเหลือง-เหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะการปกปิดรอยคล้ำใต้ตาและรอยสิว สีชมพู-เหมาะสำหรับรอยสิวและรอยช้ำต่างๆอาจจะเกิดจากการกดสิวคอนซีเลอร์สีชมพูนี้สามารถช่วยได้ 2.เลือกเนื้อคอนซีเลอร์ให้ตรงจุด นอกจากการเลือกสีคอนซีเลอร์แล้วการเลือกเนื้อสัมผัสก็เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยคอนซีเลอรืจะมีเนื้อสัมผัสอยู่2แบบคือเนื้อครีมและแบบน้ำลิควิดซึ่งเนื้อครีมเหมาะสำหรับเมื่อต้องการใช้ปกปิดหนัก ใช้ปกปิดปัญหามากทั้งรอยสิวและรอยต่างๆเพื่อการปกปิดอย่างแน่นและยาวนานส่วนแบบลิควิดนั้นควรใช้สำหรับบริเวณใต้ตา ร่องแก้มมุมปากเพื่อลดการตกร่องและให้การปิดรอยคล้ำได้ดี 3.ลงคอนซีเลอร์ด้วยเทคนิคดีๆ เริ่มจากบริเวณใต้ตาให้ลงเป็นสามเหลี่ยมหัวคว่ำ และลงให้เกินมาบริเวณแก้มเพื่อให้ความเนียนกลืนไปถึงแก้ม รวมถึงไม่ทำให้คอนซีเลอร์ดูโดดเกินไป ต่อมาให้เลือกใช้คอนซีเลอร์แบบลิควิดแทนแบบเนื้อครีม แต่ถ้าหากใต้ตานั้นโทรมมากต้องลงเนื้อครีม แต่ควรจะวอร์มครีมให้บาง แล้วเบลนให้เข้ากับผิว รวมถึงการลงอายครีมควรเลือกใช้แบบซึมไวไม่เหนอะหนะเพื่อไม่ให้คอนซีเลอร์ไหลเยิ้ม 4.ขั้นตอนสำคัญสุดท้าย เป็นการเซตเครื่องสำอางด้วยแป้งซึ่งหลายๆคนอาจจะลงเป็นแป้งโปร่งแสง แต่ในการเซตด้วยแป้งโปร่งแสงนั้นจะทำให้การปกปิดลดน้อยล งขอแนะนำให้ให้ลงเป็นแป้งผสมรองพื้นหลังจากลงคอนซีเลอร์ เพื่อเน้นการติดทนทั้งวันให้ตบหรือกดแป้งลงไปแทนการถูเพื่อไม่ให้เกิดคราบ และเพื่อให้คอนซีเลอร์กลืนไปกับผิวได้ดี #เคล็ดลับความงาม #สวยหล่อดูดี #คอนซีลเลอร์
เช็คสภาพผมบ้างจะได้ไม่พลาดสุขภาพผมดูแลง่ายแค่ปลายนิ้ว
สุขภาพเส้นผมเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเป็นเด็ดขาดไม่ใช่แค่สระผมเรื่องความสะอาดอย่างเดียวที่สำคัญต้องบำรุงหนังศีรษะให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอแต่ปัญหาเรื่องผมขาดหลุดร่วงอาการคันศีรษะและรังแคมาเป็นตัวกวนใจทำให้เสียบุคลิกและความมั่นใจไปได้เยอะเคล็ดลับผมสวยง่ายแค่ปลายนิ้ว 1.สาวๆที่โดนรังควานอย่าพึ่งท้อใจรับมาให้ลองทำดูหลังจากนำมะกรูด4-5ผลมาย่างไฟอ่อนๆแล้วคันเอาแต่น้ำมาหมักผมประมาณ10นาทีจากนั้นล้างออกให้สะอาดโดยไม่ต้องสระผมซ้ำทำอาทิตย์ละหนึ่งครั้งหนังศีรษะก็จะสะอาดปราศจากรังแคแต่ถ้าไม่มีเวลามากต้องใช้แชมพูขจัดรังแคที่เหมาะสมกับสภาพของเส้นผมเรา 2.ขณะสระผมอย่าขี้เกียจคนใช้ปลายนิ้วมือนวดหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นให้น้ำมันซึ่งเปรียบเสมือนมอยเจอไรเซอร์ธรรมชาติออกมารอเลี้ยงเส้นผมให้ชุ่มชื้นที่สำคัญยังช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดี 3.เลือกแชมพูที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมสังเกตนิดหนึ่งว่ามีความเป็นด่างหรือPh-Balanceสมดุลหรือเปล่าหากมีค่าเป็นกรดมากเกินไปจะทำให้หนังศีรษะเกิดการระคายเคืองส่วนครีมนวดผมต้องมีคุณสมบัติปรับสภาพเส้นผมให้ชุ่มชื่นสามารถล้างออกได้ง่ายและไม่ทำให้หนังศีรษะแห้ง 4.หากรีบมากต้องหวีผมขณะเปียก(ซึ่งไม่ควรเพราะจะทำให้ผมขาดง่าย)ควรใช้หวีไม้สิใหญ่หวีแทนไม้จะไม่ก่อให้เกิดไฟฟ้าสถิตและช่วยลดการข้างของเส้นผมได้อย่างดีอาหารผมก็ลืมไม่ได้เด็ดขาดอย่างพวกปลาทะเลสามไอโอดีนในปลานั่นเองที่จะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงจากภายใน 5.อากาศร้อนอบอ้าว เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการคันหนังศีรษะยามหลีกเลี่ยงการออกแดดจัดเพื่อปกป้องเส้นผมไม่ให้โดนรังสียูวีทำลายและอุปกรณ์คู่กายที่ควรมีคือหมวก,ร่มอีกวิธีหนึ่งที่ทำหลังจากสระผมคือใช้แชมพูสูตรที่ให้ความเย็นกับหนังศีรษะตอนนี้ก็ทำให้ทั้งวันเป็นวันสบายสำหรับคุณแล้ว 6.อย่านอนหลับทั้งๆที่ผมยังเปียกอยู่เพราะจะทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะมีความอับชื้นส่งผลให้เกิดอาการคันและเป็นรังแคตามมาได้ง่ายทางที่ดีเป่าผมให้แห้งสนิทซึ่งหากใช้ไดร์เป่าผมควรบำรุงเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่สามารถป้องกันความร้อนได้หลังจากนั้นค่อยใช้ไดร์เป่าผมตั้งแต่บนลงล่างเพื่อให้เกล็ดผมเรียงตัวทำให้เรียบและไม่ชี้ฟู #เช็คสภาพผม #เคล็ดลับความงาม #สวยหล่อดูดี
เคล็ดลับหยุดอายุผิวหน้าให้คงกระพัน ชะลอผิวหน้าแก่ก่อนวัย
เรื่องของ ผิวหน้า เป็นสิ่งที่สาว ๆ หลายคนให้ความสำคัญอันดับ 1 ของร่างกายเลย เพราะผิวหน้าเปรียบเสมือนด่านแรกของการพบปะกับสิ่งต่าง ๆ แต่สภาพผิวหน้าก็มีอายุที่จำกัด ถ้าเป็นช่วงวัยรุ่น แน่นอนแหละว่าผิวหน้าก็ต้องใส เด้ง แต่พออายุเริ่มมากขึ้น สภาพของผิวหน้าก็ร่วงโรยไปตามกาลเวลา ยิ่งถ้าคุณเป็นคนไม่ค่อยใส่ใจตัวเอง ไม่เคยบำรุงผิวหน้าเลย สภาพผิวหน้าก็จะโรยราไปตามวัยได้เร็วกว่าคนที่ดูแลตัวเองดี ๆ เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องดูแลบำรุงผิวหน้าให้มีสภาพผิวที่ดีอยู่เสมอ เคล็ดลับดูแลผิวหน้าให้เนื้อผิวดีจากภายใน ทาครีมบำรุงอยู่เสมอ เป็นพื้นฐานที่ง่ายมาก เพราะผิวหน้าของเราต้องการวิตามินมาบำรุงผิวเพื่อคงความชุ่มชิ้น ผลัดเซลล์ และเพื่อเติมเต็มเซลล์ผิวใหม่อยู่เสมอ การเลือกซื้อครีมมาบำรุงผิวเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่ว่าจะใช้ครีมยี่ห้อไหนหรือแบบไหนก็ได้ แต่ต้องดูด้วยว่าครีมที่เราจะใช้นั้นมีส่วนประกอบของอะไรบ้าง แล้วสภาพผิวของเราเป็นแบบไหน เหมาะกับการใช้ครีมแบบไหน นอกจากเรื่องการเลือกครีมที่จะใช้แล้ว ความสม่ำเสมอก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะมีสาว ๆ หลายคนที่ทาครีมเฉพาะวันที่ออกไปทำงานหรือออกไปข้างนอก แต่จริง ๆ แล้ว แม้วันที่คุณอยู่บ้านเฉย ๆ ก็ควรทาครีมบำรุงไว้ด้วย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ฟังดูอาจจะมองเป็นเรื่องที่ไม่น่าใช่เคล็ดลับพิเศษอะไร แต่ผู้เขียนยืนยันว่ามันได้ผลจริง เพราะตัวผู้เขียนทดสอบมากับตัว เพราะเมื่อใดที่ออกกำลังกาย เลือดจะสูบฉีดไปทั่วร่างกายหรือที่เรียกกันว่า เลือดลมไหลเวียนดี ทำให้ผิวหน้าดูสดใส หน้าตาไม่หมองคล้ำ และยังช่วยให้สุขภาพดีขึ้นอีกด้วย ทานผัก ผลไม้เป็นประจำ เป็นสิ่งที่มองว่ามาคู่กับการออกกำลังกาย […]
สาวๆควรทิ้งเครื่องสำอางเมื่อใด
ผู้หญิงหลายต่อหลายคนชื่นชอบการซื้อเครื่องสำอางเป็นชีวิตจิตใจ แต่เมื่อจำนวนเครื่องสำอางมากขึ้น ปัญหาที่พบคือ ใช้ไม่ทันและหมดอายุไปเสียก่อน เพราะเครื่องสำอางมีการใช้งานไม่แตกต่างไปจากยารักษาโรคและของกินทั่วๆ ไป ดังนั้นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ควรทิ้งเครื่องสำอางคือเมื่อใด นี่คือคำแนะนำของเครื่องสำอางที่ควรเก็บและควรโยนทิ้ง มาสคาร่า ควรเปลี่ยนมาสคาร่าทุก ๆ 4-6 เดือน หรือทันทีที่มันเริ่มมีกลิ่นหรือมีลักษณะผิดปกติ เพราะการนำผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุแล้วมาใช้กับดวงตา อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ และเมื่อซื้อหลอดใหม่ก็ควรดูแลรักษาเพื่อป้องกันเชื้อโรคและแบคทีเรีย ด้วยการปิดให้สนิททุกครั้งหลังการใช้งาน หลีกเลี่ยงการปั๊มที่ปัดมาสคาร่าเข้าออก และไม่ควรใช้ใช้มาสคาร่าร่วมกับผู้อื่น อายไลเนอร์ ปกติอายไลเนอร์จะมีอายุการใช้งานอย่างน้อย 1 ปี แต่ถ้าหากพบว่าอายไลเนอร์มีความผิดปกติก็ควรทิ้งเครื่องสำอางนั้นเสีย เพราะมันอาจก่อให้เกิดอันตรายบริเวณรอบดวงตาได้ แต่เนื่องจากอายไลเนอร์มีหลายแบบ หากเป็นชนิดที่เป็นแท่งดินสอคุณสามารถยืดอายุการใช้งานออกไปได้และกำจัดเชื้อโรคด้วยการเหล่าดินสออย่างน้อย 3 วันต่อครั้ง รองพื้น ส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นของเหลว ครีม และแป้งอัดแข็ง อาจอยู่ได้นานถึงหนึ่งปีถ้าเก็บไว้ให้พ้นแสงแดดและความร้อน และเมื่อใดควรทิ้งเครื่องสำอางของคุณ คือ เมื่อของเหลวเริ่มแยกชั้น (ชนิดที่เป็นครีม) หรือมีการแตก และการยืดอายุของรองพื้น ควรหลีกเลี่ยงเชื้อโรคและแบคทีเรียด้วยการล้างพัฟหรือฟองน้ำทุก 2-3 สัปดาห์ คอนซีลเลอร์ ปกติแล้วคอนซีลเลอร์จะมีอายุและสามารถใช้งานได้เฉลี่ย 1 ปี และควรทิ้งเมื่อมันแตกหรือมีลักษณะเหนียวหนืด คอนซีลเลอร์ชนิดเหลวหากมันแยกเป็นชั้น มีความมัน และมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวควรทิ้งเครื่องสำอางนั้นเสีย วิธีการเก็บรักษาที่ถูกต้องคือ เมื่อใช้เสร็จให้ปิดฝาให้สนิท บลัชออนและอายแชโดว์ […]
สายปาร์ตี้หรือนักกิจกรรมอย่าให้มีกลิ่นตัว!
สำหรับขาแดนซ์ที่ชอบไปปาร์ตี้คอนเสิร์ตหรือนักกิจกรรมชอบไปออกกำลังกายแล้วประสบปัญหามีกฃลิ่นตัสสำหรับคนที่มีกลิ่นซึ่งกลิ่นตัวนั้นมีหลายคนที่ไม่อยากมีกลิ่นตัวหรอกค่ะเพราะถ้าเรามีกลิ่นตัวจะทำให้เราไม่มีความมั่นใจในตัวเองซึ่งในร่างกายของเรานั้นจะมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เกิดอยู่แล้วความเป็นจริงในร่างกายของเรานั้นทุกซอกทุกมุมนั้นมีกินอยู่ตลอดเวลาเช่นรักและหากเท้าขาหนีบข้อพับต่างๆเวลาที่เราได้กลิ่นเราก็อาจจะขาดความมั่นใจ สาเหตุของการมีกลิ่นตัวมีอะไรบ้าง? 1.ภาวะเหงื่อออกเยอะสังเกตุคนที่มีกลิ่นตัวอาจเป็นเพราะเหงื่อที่ขับออกเยอะจึงทำให้มีกลิ่นตัวหรือกลิ่นอับหรือกลิ่นเท้าก็เกิดจากเหงื่อเช่นกัน 2.การทำงานของต่อมต่างๆมีความปั่นป่วนมีความผิดปกติจึงทำให้นั้นออกกลิ่นไม่พึงประสงค์นั้นออกมา 3.ฮอร์โมนการที่ฮอร์โมนวัยรุ่นหลั่งออกมากทำให้ส่งผลให้มีกลิ่นตัวเช่นกัน 4.การสะสมของแบคทีเรีย 5.อาหารที่กินเข้าไปก็เช่นกันเพราะอาหารบางชนิดกินแล้วทำให้มีกลิ่นตัวหรือมีสารบางอย่างที่ไปกระตุ้นต่อมให้ทำงานให้มีกลิ่นตัวอาหารที่ทำให้มีกลิ่นตัวเช่นกระเทียม,หอมใหญ่ม ส่วนมากจะเป็นจำพวกเครื่องเทศวันนี้ปัญหาไปเหล่านั้นจะหมดไปวันนี้จะมารีวิวอยู่ในประเภทของโรออนหรือผลิตภัณฑ์ระงับกินกายต่างๆที่สามารถระงับกินกายได้ดีแถมผิวใต้วงแขนไม่ดำ รีวิวโรลออนดีๆเพื่อลดกลิ่นตัวได้จริง! 1.RexonaDreamyWhie(ราคา45บาท) ระงับกลิ่นกายเอาอยู่แถมปรับใต้วงแขนให้ดูกระจ่างใสขึ้นเพราะทางแบรนด์เคลมว่าทำให้ใต้วงแขนขาวภายวันมีกลิ่นหอมอ่อนแถม0%แอลกอฮอร์ซึ่งดีมากๆเลยเพราะใต้วงแขนเราจะได้ไม่คล้ำเพราะว่าแอลกอฮอร์นั้นทำให้ใต้วงแขนเราคล้ำถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่เป็นโรลออนควรหลีกเลี่ยงโรลออนที่มีแอลกอฮอร์ทาเพียงไม่ถึง2นาทีเท่านั้นก็แห้งแล้วแถมไม่เป็นคราบขาวคราบเหลืองที่เสื้ออีก 2.แป้งเตาเหยียบโลก(ราคา35บาท) แบรนด์ดังที่เพิ่งมาตีตลาดตอนนี้มีคนรู้จักอย่างแพร่หลายบอกเลยว่าดีมากเหมือนการทาแป้งแถมระงับกลิ่นกายได้ดีมากทาง่ายๆไม่เหนียวเนอะหน่ะเนื้อสัมผัสบางเบาเป็นแป้งผสมสมุนไพรผสมสารสมและถ้าใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับใต้วงแขนคล้ำแบร์นดนี้ก็มีครีมทาใต้วงแขนด้วย 3.NiveaRoseSerumผบิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและมีประสิทธิภาพบึงใต้วงแขนสามารถบำรุงได้อย่างลำลึกกลิ่นหอมเบาๆแถม0%แอลกอฮอร์ไปอีกทีนี้สายปาร์ตี้กับสายกิจกรรมไม่ต้องกังวลไปหามาใช้ด่วนๆ #มีกลิ่นตัว #เคล็ดลับความงาม #สวยหล่อดูดี
สุดยอดวิตามินบำรุงผิว เผยความงามจากภายใน
ซึ่งถ้าเราดูแลผิวพรรณและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาผิวแล้วผิวก็ยังดูสุขภาพไม่ดี ก็สามารถเติมวิตามินลงไปเพื่อให้ผิวสวยจากภายในสู่ภายนอกดังต่อไปนี้ วิตามินเพื่อผิวสวยสุขภาพดี 1. วิตามินซี เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ๆ วิตามินซีมีส่วนที่สำคัญในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย เช่น เซลล์เนื้อเยื้อ กระดูก ข้อเข่า ช่วยสร้างภูมิต้านทานภายในร่างกายให้ต่อสู้กับเชื้อโรค ช่วยดูดซึมธาตุเหล็กจากพืช เป็นต้น ซึ่งวิตามินซีประโยชน์มากมายหลายประการต่อร่างกาย ส่วนประโยชน์ทางด้านผิวพรรณจากงานวิจัยพบว่า ช่วยต่อสู้กับริ้วรอยบนผิวหนัง ทำให้ผิวชุ่มชื่น กระจ่างใส ป้องกันเม็ดสีที่เข้มให้จางลง ซึ่งควรทานวิตามินซี วันละ 1,000 มก. ซึ่งถ้าหากขาดวิตามินซีจะมีผลกระทบต่อร่างกาย เช่น ปวดกล้ามเนื้อ ปวดเส้นเอ็น ปวดเส้น เลือดออกตามไร้ฟัน แผลหายช้า ซึ่งแหล่งของวิตามินซีนั้นเราสามารถรับเข้าร่างกายได้จากการรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง ๆ อย่างเช่นในผลไม้ ได้แก่ ส้ม มะนาว ฝรั่ง สตรอเบอร์รี่ มะขามป้อม เป็นต้น ส่วนวิตามินซีจากผัก ได้แก่ บล็อกคอรี่ ผักคะน้า ผักโขม ใบมะรุม ซึ่งการรับประทานวิตามินซี ควรทานอย่างพอเหมาะและควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญว่าควรรับประทานเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอต่อร่างกาย ซึ่งแต่ละคนต้องการไม่เท่ากัน โดยการตรวจหาค่าวิตามินจากผลเลือดว่ามีมากหรือน้อยเพียงใด ซึ่งในผู้ที่ขาด อาจทานวิตามินเสริมได้ […]
บำรุงผิวก่อนนอนเพื่อสุขภาพผิวดีในตอนเช้า
ทุกเช้าที่เราตื่นไปทำงาน เคนสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมหน้าตาเราถึงหมองคล้ำเหมือนคนนอนไม่เต็มอิ่ม ทั้งที่ความจริงก็นอนเต็มอิ่มแล้ว แต่หน้าตาก็ดูไม่สดใสอย่างที่ควรจะเป็น นั่นเป็นเพราะว่าคุณละเลยกับบางสิ่งที่ควรใส่ใจอย่างการดูแลผิวนอนก่อนนอนนั่นเอง ถึงแม้ว่าในตอนเช้าคุณจะต้องแต่งหน้าเพื่อปกปิดผิวหน้าที่แท้จริง แต่ถ้าสภาพผิวคุณไม่ดี แต่งหน้าไปก็ดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เพราะถ้าเริ่มสายของวันนั้น ความไม่สดใสของผิวก็เริ่มเผยออกมาให้เห็น เพราะฉะนั้นทางที่ดีคุณควรจะบำรุงผิวก่อนนอนอย่างสม่ำเสมอ วิธีการบำรุงผิวหน้าก่อนนอน เพื่อผิวสดใสในยามเช้า มาร์คหน้าก่อนนอน การมาร์คหน้าจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้มีเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ ซึ่งการมาร์คหน้าจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ แบบแรกคือ การมาร์คหน้าด้วยผักผลไม้ตามธรรมชาติ โดยจะมีสูตรการหมักหน้าตามหนังสือสุขภาพหรืออินเตอร์เน็ตทั่วไป กับวิธีที่สอง คือการใช้แผ่นมาร์คหน้าที่อุดมไปด้วยวิตามินจำเป็นในการบำรุงผิวหน้า การมาร์คหน้าจะช่วยให้ผิวเราสดใสในยามเช้าแบบเห็นได้ชัด แต่การมาร์คหน้าก็มีข้อควรระวัง คือ ไม่ควรมาร์คทุกวัน ให้เว้นระยะการมาร์คอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 วันกำลังพอดี ทาครีมบำรุงก่อนนอน การบำรุงผิวก่อนนอนเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยเป็นอันขาด เพราะการทาครีมก่อนนอนจะมีส่วนช่วยบำรุงเซลล์ผิวขณะที่หลับ ที่สำคัญควรทาทุกคืน แต่การเลือกครีมในการทาก่อนนอน ควรเลือกสูตรสำหรับทากลางคืนโดยเฉพาะ เพราะมีสารอาหารบำรุงผิวที่แตกต่างจากสูตรกลางวัน นวดหน้าก่อนนอนทุกคืน การนวดหน้า เป็นวิธีการง่าย ๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน เพราะการนวดจะช่วยให้ผิวเรากระชับ เด้ง และยังทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าไว วิธีการนี้อาจจะไม่ได้ผลดีเหมือนกับการทาครีมและการมาร์คหน้า แต่การนวดหน้าเป็นผลระยะยาวเหมือนการหยอดเหรียญเข้ากระปุก ทำวันละนิดวันละหน่อย สุดท้ายก็จะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการอย่างแน่นอน อย่านอนดึก วิธีการเบสิกที่สุดของการบำรุงผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหรือผิวกายสามารถใช้ได้ทั้งคู่ เพราะการนอนดึกเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่าง ๆ และส่งผลโดยตรงต่อสภาพผิวหน้าที่นอกจากจะเกิดสิวแล้ว […]
แนะนำวิธีการดูแลผิวพรรณฉบับคุณแม่ไม่มีเวลา 2
หากคุณไม่มีเวลามากในตอนเช้า คุณสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบบ Multipurpose จะช่วยลดเวลาและขั้นตอนในการเตรียมตัวของคุณในตอนเช้าได้ ยกตัวอย่างเช่นครีมบำรุงผิวที่เป็นในลักษณะของ Essence + เซรั่ม หรือ การใช้ครีมรองพื้นที่มีส่วนผสมของสารกันแดด โดยที่คุณแม่ทั้งหลายจะเสียเวลาไม่เกิน 5 นาทีในการเตรียมผิวในตอนเช้า และพร้อมรับกับภาระกิจยาวนานตลอดวันโดยที่ยังคงดูสดใสอยู่ ซึ่งถ้าหากคุณไม่อยากแต่งหน้า เพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อการกอดหอมลูกน้อย คุณสามารถใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสงทาทับหลังจากที่ลงสกินแคร์แล้ว เพื่อช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ หรืออาจเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าลูกน้อยจะเป็นอันตราย สเปรย์น้ำแร่ หลายๆคนมองว่าสเปรย์น้ำแร่เป็นแค่เพียงไอเทมกระแส ที่ไม่ได้มีประโยชน์ต่อการดูแลผิวพรรณสักเท่าไหร่ แต่อันที่จริงแล้วสเปรย์น้ำแร่ที่มีขายในท้องตลาดปัจจุบันนี้มีหลากหลายรูปแบบมากมาย ทั้งที่มีส่วนผสมของวิตามินหรือที่เป็นน้ำแร่แบบเพียว ๆ เท่านั้น แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้สเปรย์น้ำแร่ในรูปแบบไหนก็ตาม ประโยชน์ที่ได้รับในแง่ของความสดชื่นเมื่อคุณฉีดลงบนผิวนั้น เป็นเรื่องที่สามารถช่วยให้คุณผ่านพ้นโมเมนท์แย่ ๆ ได้ดีไม่น้อยทีเดียว สเปรย์น้ำแร่ช่วยปลอบประโลมผิวของคุณ ให้ผ่อนคลายลงได้ในเวลารวดเร็ว พร้อมทั้งยังมอบความสดชื่นให้กับผิวของคุณอีกด้วย เคล็ดลับในการใช้สเปรย์น้ำแร่ให้ฟินถึงขีดสุดคือการแช่ขวดสเปรย์เอาไว้ในตู้เย็น เมื่อคุณกำลังหัวเสียกับอะไรบางอย่าง หรือกำลังรับมือกับความร้อนอบอ้าวเมื่อต้องวิ่งวุ่นหัวฟูทำอะไรพร้อมกันหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน การฉีดน้ำแร่เย็น ๆ ลงบนหน้าของคุณช่วยให้คุณ (และผิวของคุณ) ผ่อยคลายได้เป็นอย่างดี มาร์คกระดาษ อีกหนึ่งตัวช่วยสุดฮิตที่เป็นที่นิยมไปทั่วบ้านทั่วเมือง หลังจากเสร็จสิ้นการกล่อมลูกน้อยให้หลับแล้ว คุณสามารถใช้เวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ ผ่อนคลายและบำรุงผิวหน้าของคุณให้นุ่มชุ่มชื่นได้ในเวลาเดียวกัน เพียงมาร์กหน้าด้วยมาร์กกระดาษที่แช่เย็นเอาไว้ […]
แนะนำวิธีการดูแลผิวพรรณฉบับคุณแม่ไม่มีเวลา 1
การเป็นคุณแม่หมาด ๆ นั้นมีภารกิจประจำวันหลากหลายอยากให้คุณทำได้แบบเกือบจะ 24 ชั่วโมง บางครั้งก็แทบจะไม่ได้นอนตามเวลาปกติเลย ผิวพรรณก็เริ่มหมองคล้ำไม่สดใส ไหนจะเรื่องรูปร่างหลังคลอดที่ยังไม่เข้าที่ ปัจจัยเหล่านี้พาลจะทำให้ดูแก่กว่าวัยแบบไม่ตั้งใจอีกด้วย ในบทความวันนี้เราจึงมีคำแนะนำดี ๆ มาช่วยให้คุณแม่ทุกคน สามารถดูแลผิวพรรณของตัวเองได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องใช้เวลามากมายมาฝาก ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ หากคุณไม่มีเวลาดูแลตัวเองมากพอ สิ่งที่ง่ายที่สุดที่คุณจะสามารถทำเพื่อตัวเองได้ก็คือ การดื่มน้ำมาก ๆ เพราะการดื่มน้ำในปริมาณที่มากเพียงพอ จะช่วยไล่สารพิษตกค้างในร่างกายได้ รักษาความสมดุลค่า PH ช่วยเติมความชุ่มฉ่ำให้ผิวและชะลอความเหี่ยวย่นใหกับคุณแม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี การดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ จะช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสดใส นอกจากนั้นยังทำให้คุณสดชื่นได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยเราแนะนำว่าต้องดื่มเป็นน้ำเปล่าเท่านั้น หลีกเลี่ยงน้ำหวานหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นบริมาณมาก (โบกมือลาชานมไข่มุกไปก่อน) เพราะน้ำตาลสามารถทำให้คุณหน้าก่อนไวได้ เมื่อร่างกายของคุณมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง จะก่อให้เกิดสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า AGEs (Advanced Glycation End Products) ซึ่งสามารถทำลายอีลาสตินและคอลลาเจนในชั้นผิวของคุณได้ ทำให้ผิวหนังเกิดความหย่อนคล้อย มีริ้วรอยง่าย ทานผักผลไม้ และอาหารที่มีประโยชน์ สิ่งที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างและฟื้นฟูระบบการทำงานในร่างกายก็คือ สารอาหารต่าง ๆ ดังนั้นการทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ จะช่วยให้คุณมีสารอาหารที่จำเป็นต่อฟังก์ชันการซ่อมแซมและบำรุงระบบต่าง ๆ […]
ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดริ้วรอยดูลึก หย่อนคล้อย
เมื่อเวลาผ่านไป รอยเหี่ยวย่น ร่องลึกก็ผุดขึ้นมามากมายเต็มใบหน้าไปหมด ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ริ้วรอยเหี่ยวย่น เป็นร่องลึกก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ถึงแม้อายุเราจะเพิ่มขึ้น ริ้วรอยจะมากขึ้น แต่เราไม่สามารถที่จะหยุดยั้งริ้วรอยเอาไว้ไม่ได้ตามการเวลา แต่เราสามารถชะลอความเหี่ยวย่น และลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าของเราให้ดูดอ่อนเยาว์กว่าวัยได้ ซึ่งเราได้รวบรวมวิธีบำรุงริ้วรอยต่าง ๆ มาฝากกัน หากใครกำลังมองหาวิธีบำรุงรักษามาทางนี้เลย ทำไมถึงเกิดริ้วรอยบนใบหน้า เมื่ออายุมากขึ้น สาระสำคัญที่ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึง ความชุ่มชื้นและเปล่งปลั่ง ซึ่งร่างกายเราสามารถผลิตได้ในประมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของผิวลดน้อยลง ไม่ว่าจะเป็น อิลาสติน กรดไฮยาลูรอน หรือคอลาเจนที่ผิวสามารถผลิตเองได้ พออายุมากขึ้น กระบวนการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ก็เริ่มช้าลง สารอาหารต่าง ๆ ที่ช่วยในการทำงานให้ผิวหนังเต่งตึงก็ด้อยประสิทธิภาพลง ทำให้เกิดการหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยบนใบหน้าตามจุดต่าง ๆ ซึ่งโดยปกติริ้วรอยจะเกิดขึ้นในบริเวณเฉพาะบนใบหน้า และสามารถสังเกตได้ดังนี้ -ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ริ้วรอยระหว่างคิ้ว ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการแสดงสีหน้าท่าทางต่าง ๆ และเมื่อเวลาผ่านไปริ้วรอยต่าง ๆ ก็จะเริ่มลึกขึ้นเรื่อย ๆ -ริ้วรอยบริเวณหางตา หรือที่เรียกว่าตีนกา มักเริ่มเป็นริ้วรอยบาง ๆ และลึกขึ้นบริเวณหางตาและจะค่อยลึกขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป สำหรับตีนกาเป็นริ้วรอยจุดแรก ๆ ที่เราสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะผิวหนังบริเวณหางตา บอบบางกว่าบริเวณอื่น ๆ […]